ภัยร้ายจากโรคทางเดินอาหาร

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าโรคทางเดินอาหารเป็นสิ่งใกล้ตัวเรากว่าที่คิด เพราะสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศ ทุกวัย โดยเฉพาะวัยทำงานที่แต่ละวันพบเจอแต่ความเครียดและการใช้ชีวิตเร่งรีบ ทำให้ไม่มีเวลาใส่ใจเรื่องอาหารและสุขภาพมากพอ หากทำงานในออฟฟิศก็แทบจะไม่ได้ขยับตัวไปไหน ต้องนั่งท่าเดิมหน้าจอคอมเป็นเวลานานๆ สิ่งเหล่านี้ส่งผลต่อระบบทางเดินอาหารโดยตรง หากอาการรุนแรงก็อาจทำให้ถึงขั้นเสียชีวิตได้ทีเดียว เพื่อไม่ให้สายเกินแก้ เรามาทำความเข้าใจโรคนี้และสำรวจตัวเองไปพร้อมกันเถอะ

สำรวจตัวเองว่ามีอาหารเหล่านี้หรือไม่?

โรคความผิดปกติในระบบทางเดินอาหาร (Gastrointestinal tract disease) มีหลายประเภท ขึ้นอยู่กับว่าเกิดส่วนใด เช่น กระเพาะอาหาร ลำไส้ ตับ ถุงน้ำดี เป็นต้น โดยอาการที่พบบ่อยคือ การปวดท้องโดยไม่ทราบสาเหตุ เรอบ่อย แน่นท้อง หรือรู้สึกแสบร้อนบริเวณหน้าอกหรือลิ้นปี่ ซึ่งอาจเป็นโรคกรดไหลย้อน บางท่านมีอาการขย้อนอาหาร หรือไอเรื้อรัง ร่วมด้วย บางท่านท้องอืด ท้องผูก ท้องเสีย หรือท้องผูกสลับท้องเสีย พูดง่าย ๆ คือรู้สึกถึงความผิดปกติด้านการขับถ่าย หากเริ่มเป็นหนักอาจมีอาการ คลื่นไส้ อาเจียน อุจจาระปนเลือด ตัวเหลือง ซีด น้ำหนักลด เบื่ออาหารร่วมได้ สิ่งเหล่านี้เป็นสัญญาณเตือนถึงความผิดปกติของโรคทางเดินอาหาร และควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อแก้ที่ต้นเหตุ 

แล้วสาเหตุเกิดจากอะไร?

โรคความผิดปกติในระบบทางเดินอาหารเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ทั้งพฤติกรรมการใช้ชีวิตของเราเอง เช่น ไม่ออกกำลังกาย กินอาหารที่มีกากใยน้อยหรือไม่เป็นเวลา ใช้ชีวิตที่เร่งรีบโดยไม่ใส่ใจสุขภาพ ขับถ่ายไม่ปกติ หรือการดื่มสุราหากสะสมเป็นระยะเวลานานก็อาจทำให้เกิดโรคนี้ได้ นอกจากนี้ยังสามารถเกิดจากการติดเชื้อ เช่น ท้องร่วงจากอาหารเป็นพิษ กระเพาะอาหารอักเสบ และไส้ติ่งอักเสบเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ในขณะที่โรคไวรัสตับอักเสบเกิดจากเชื้อไวรัส และโรคจากพยาธิต่าง ๆ รวมถึงมะเร็งลำไส้ มะเร็งตับ มะเร็งหลอดอาหาร ก็นับเป็นภัยร้ายอันดับต้นๆ ของระบบทางเดินอาหารเช่นกัน ซึ่งมะเร็งอาจเกิดจากพันธุกรรมคนในครอบครัวได้ 

เราสามารถป้องกันโรคทางเดินอาหารได้อย่างไร?

สำหรับผู้ที่อายุ 50 ปีขึ้นไป มีปัญหาการขับถ่าย มีความผิดปกติเกี่ยวกับท้องเป็นประจำ หรือครอบครัวมีประวัติเป็นมะเร็งระบบทางเดินอาหาร คุณคือกลุ่มเสี่ยง ควรเข้ารับการตรวจระบบทางเดินอาหารประจำปีเพื่อป้องกันความเสี่ยงในการเกิดโรคทางเดินอาหารเรื้อรัง และปรึกษาแพทย์เพื่อการวินิจฉัยที่แม่นยำ รวมทั้งปรับพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน เช่น รับประทานอาหารสุขภาพ ผักผลไม้ที่มีกากใย หมั่นออกกำลังกายและขยับตัวให้บ่อยขึ้น รวมทั้งลดการดื่มแอลกอฮอลล์และสูบบุหรี่ เพื่อป้องกันระบบทางเดินอาหารผิดปกติจากต้นเหตุ อย่าคิดว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย เพราะหากคุณเป็นโรคนี้เรื้อรังแล้วอาจจะสายเกินแก้ก็ได้ค่ะ

https://www.princsuvarnabhumi.com/content-gastrointestinal-diseases/

https://www.bumrungrad.com/healthspot/February-2018/about-digestive-disorders