โรคต่อมลูกหมากโต คืออะไร อาการเป็นอย่างไร?

โรคต่อมลูกหมากโต หรือ BPH (Benign Prostate Hyperplasia) คือ ภาวะที่ต่อมลูกหมากซึ่งเป็นอวัยวะที่อยู่ใต้กระเพาะปัสสาวะมีขนาดใหญ่ผิดปกติ พบในผู้ชายอายุ 45 ปีขึ้นไป และโดยเฉพาะในผู้ชายสูงวัยอายุ 60 ปีขึ้นไปพบมากถึง 50% ขนาดต่อมลูกหมากที่โตขึ้นอาจไปกดทับให้ท่อปัสสาวะตีบลง ซึ่งทำให้ผู้ป่วยมีอาการปัสสาวะติดขัด และทำให้ต้องเบ่งปัสสาวะเพื่อให้ผ่านท่อที่แคบลงได้ ส่งผลให้ผนังของกระเพาะปัสสาวะหนาขึ้นเพื่อสามารถบีบตัวได้แรงขึ้น และทำให้กักเก็บน้ำปัสสาวะได้น้อยลง ผู้ป่วยจึงปัสสาวะบ่อยขึ้น โดยเฉพาะตอนกลางคืน หรืออาจปวดปัสสาวะเฉียบพลัน บางครั้งอาจปัสสาวะไม่สุด หรือกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ร่วมด้วย 

โรคต่อมลูกหมากโต เกิดจากอะไร?

อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีหลักฐานยืนยันแน่ชัดเกี่ยวกับสาเหตุของโรคต่อมลูกหมากโตในผู้ชาย แต่อาจเกี่ยวข้องกับระดับฮอร์โมนเพศชาย “ไดไฮโดรเทสโทสเตอโรน” (Dihydrotestosterone or DHT) ที่เปลี่ยนแปลงตามอายุที่เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากพบว่าอาการของผู้ป่วยอายุน้อยกว่า 40 ปีจะน้อยกว่าผู้ป่วยที่อายุเกิน 60 ปี นอกจากนี้ การใช้สมุนไพรบางชนิดในการเพิ่มฮอร์โมนเพศชายอาจเป็นปัจจัยเสี่ยงของโรค รวมทั้งผู้ป่วยที่เคยติดเชื้อจากโรคต่อมลูกหมากอักเสบ และผู้ป่วยโรคเบาหวานและหัวใจ ก็เป็นความเสี่ยงที่ทำให้เกิดต่อมลูกหมากโตได้เช่นกัน

เราสามารถป้องกันโรคนี้ได้หรือไม่?

ในปัจจุบันโรคต่อมลูกหมากสามารถรักษาได้ตามระดับความรุนแรง โดยใช้ยา และการผ่าตัด ทั้งการขูดต่อมลูกหมาก ขยายท่อปัสสาวะ หรือการใช้คลื่นความร้อนเพื่อให้ปัสสาวะง่ายขึ้น อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีวิธีการป้องกันที่แน่ชัด ดังนั้นคุณผู้ชายจึงควรหมั่นสังเกตการปัสสาวะของตนเอง โดยเฉพาะผู้ชายที่อายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไปซึ่งมีความเสี่ยงสูงควรตรวจต่อมลูกหมากประจำปี หากมีอาการปัสสาวะผิดปกติ ควรรีบพบแพทย์โดยเร็วเพื่อรับการรักษาอย่างถูกวิธี และป้องกันไม่ให้อาการลุกลามไปมากกว่านี้นั่นเอง

อายุที่เพิ่มขึ้นทำให้ร่างการทำงานเสื่อมถอยเป็นธรรมดา หากแต่เราต้องหมั่นดูแลสุขภาพร่างกายและจิตใจให้ดีเพื่อพร้อมรับมือกับโรคต่างๆ ที่มีความเสี่ยงมากขึ้นตามอายุ โดยเฉพาะโรคต่อมลูกหมากโตซึ่งพบได้มากในคุณผู้ชายไม่ต่างจากวัยทองของผู้หญิงเมื่อหมดประจำเดือน ดังนั้นหากเริ่มมีอาการปัสสาวะผิดปกติก็ไม่ต้องตกใจไป แต่ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรักษาและแก้ไขที่ต้นเหตุได้ทันท่วงที